กองทุนรวมไม่ใช่แค่เรื่องของการลงทุนเพื่อผลตอบแทนอีกต่อไป แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ ด้วยกระแสการเงินเพื่อความยั่งยืนที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ปัจจุบัน “กองทุนThai ESG” (Environmental, Social, Governance) กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหลังจากล่าสุดที่กระทรวงการคลัง , ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของการลงทุนในกองทุน Thai ESG ให้มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่การได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเท่านั้น แต่ยังเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจที่มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง
เปิดเงื่อนไขใหม่กองทุนThai ESG
หนึ่งในความโดดเด่นของกองทุน Thai ESG คือการที่กระทรวงการคลังได้พิจารณาเพิ่มวงเงินสำหรับการลงทุน สำหรับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเดิม 1 แสนบาทต่อคนต่อปี เป็น 3 แสนบาทต่อคนต่อปี สำหรับปีภาษี 2567-2569 พร้อมทั้งปรับลดระยะเวลาการถือครองกองทุนเหลือเพียง 5 ปี จากเดิม 8 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนได้รับประโยชน์ทั้งในด้านการลงทุนระยะยาวและสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังขยายขอบเขตการลงทุนของกองทุน Thai ESG ให้กว้างขึ้น ทำให้สามารถจัดสรรเงินลงทุนไปยังธุรกิจไทยที่มีศักยภาพและมีความโดดเด่นในด้าน ESG เช่น บริษัทที่มีการใช้พลังงานทดแทน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมีการดำเนินงานอย่างโปร่งใสตามมาตรฐานสากล โดยบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องมีคะแนนธรรมาภิบาล (Governance) ในระดับดีเลิศ และมีการเปิดเผยแผนและเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าบริษัท(Corporate value up plan) โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับจากวันที่ได้เปิดเผยแผน เช่น แผนดำเนินการที่ชัดเจนเพื่อเข้ารับการประเมินจากผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล หรือการมีเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน เป็นต้น นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนที่มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังส่งเสริมให้ บจ. ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับธรรมาภิบาล และมีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายของ UN SDGs และเป็นไปตามเป้าประสงค์ของภาครัฐด้วย
ยกระดับ บจ.-บลจ. โปร่งใส
หลักเกณฑ์ใหม่ของกองทุน Thai ESG ยังมีการปรับปรุงบทบาทหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ให้มีความรับผิดชอบและระมัดระวังมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน (fiduciary duty) โดย บลจ. จะต้องกำหนดนโยบายและกลยุทธ์การลงทุนที่ชัดเจน เพื่อคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสำหรับการลงทุนในกองทุน Thai ESG รวมถึงมีกระบวนการในการบริหารจัดการเงินลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ (responsible investment)
นอกจากนี้ บลจ. ยังต้องเลือกผู้ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนตามมาตรฐานสากล เพื่อคัดเลือกหุ้นที่มีความโดดเด่นในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยผู้ประเมินเหล่านี้จะต้องมีความน่าเชื่อถือ เช่น เป็นตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของ World Federation of Exchanges (WFE) หรือสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นอิสระ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนว่ากองทุน Thai ESG ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพและมีการดำเนินงานที่โปร่งใส พร้อมส่งเสริมความยั่งยืนอย่างแท้จริง
เริ่มต้นลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืนกับกองทุนThai ESG
สำหรับใครที่กำลังมองหาทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและยังช่วยประหยัดภาษี กองทุน Thai ESG อาจเป็นคำตอบที่น่าสนใจ ไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว แต่ยังเป็นการร่วมสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน และช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปพร้อมกับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มากขึ้นตามเงื่อนไขใหม่ พร้อมทั้งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงจากธุรกิจที่มีพื้นฐานความมั่นคงและดำเนินงานด้าน ESG ที่โปร่งใสและยั่งยืน
———————————————-
